วัตถุประสงค์ของบทความนี้เป็นการอ้างถึงเฉพาะการสูญเสียการได้ยินที่ความถี่ต่ำ โดยการสูญเสียการได้ยินประเภทนี้ส่งผลกระทบต่อระดับการได้ยินที่ความถี่ 2000 Hz หรือความถี่ที่ต่ำกว่า จากการเสื่อมที่ช่วงความถี่ต่ำนี้เองทำให้ยังสามารถฟังเสียงสนทนาได้ใกล้เคียงปกติ เนื่องจากรายละเอียดของเสียงที่อยู่ในบริเวณความถี่สูงเป็นเสียงพยัญชนะทำให้ยังจับคำพูดได้ดี

การกลายพันธุ์ของยีน WFS1 (Wolfram Syndrome) สามารถทำให้เกิดการสูญเสียการได้ยินที่ความถี่ต่ำได้ การกลายพันธุ์นี้ เรียกว่า Wolfram Syndrome 1.1 และยังมีสาเหตุอื่นๆที่ทำให้เกิดการสูญเสียการได้ยินที่ความถี่ต่ำได้อีก เช่น Mondini dysplasia ( Cochlear ผิดปกติ), หูดับฉับพลัน, Meniere’s disease, การติดเชื้อไวรัส, ภาวะไตวาย และ ความดันสูง

บุคคลที่มีการสูญเสียที่ความถี่ต่ำนี้จะมีปัญหาเมื่อต้องสนทนากับบุคคลเป็นกลุ่มหรือสื่อสารในสถานที่ที่มีเสียงรบกวน โดยสามารถตรวจพบบุคคลเหล่านี้ได้จากการคัดกรองการได้ยินแบบปกติ แต่หากมีประวัติคนในครอบครัวมีการสูญเสียการได้ยินที่ความถี่ต่ำ ควรจะพบนักโสตสัมผัสวิทยาเพื่อทำการตรวจโดยละเอียดต่อไป

การรักษาจะขึ้นอยู่กับอาการและสาเหตุของโรคนั้นๆในบุคคลที่มีการสูญเสียการได้ยิน ในบางกรณีการรักษาอาจไม่จำเป็นแต่การใช้อุปกรณ์เครื่องช่วยฟังที่ขยายบริเวณเสียงความถี่ต่ำแต่ไม่ขยายในส่วนความถี่ที่มีการได้ยินปกติจะเป็นการช่วยแก้ปัญหาในด้านการฟังเสียงสนทนาที่ไม่ชัดเจนได้ ที่สำคัญไปกว่านั้น เครื่องช่วยฟังยังมีคุณสมบัติในการตัดเสียงรบกวนได้ โดยเฉพาะเครื่องช่วยฟังที่มีไมโครโฟนหลายตัวจะช่วยปรับปรุงเสียงได้ดีในสถานการณ์ที่มีเสียงดัง นอกจากนี้ยังมีหลายๆเทคโนโลยีที่จะช่วยให้การรับฟังเสียงคมชัดและมีความเป็นธรรมชาติมากขึ้น ทั้งนี้บุคคลในกลุ่มที่มีการสูญเสียการได้ยินที่ความถี่ต่ำจึงควรพบนักโสตสัมผัสวิทยาเพื่อค้นหาอุปกรณ์ช่วยเหลือได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Tags

No responses yet

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *