คุณฮวน ปาโบล ว่าที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการได้ยิน ที่สามารถได้ยินเสียงของคนไข้และให้การดูแลได้เป็นอย่างดี ด้วยอุปกรณ์นำเสียงผ่านกระดูกทั้ง ADHEAR และ BONEBRIDGE ซึ่งในบทความนี้ เขาได้เล่าถึงประสบการณ์การได้ยินของเขาที่ใกล้เคียงกับธรรมชาติมาก ๆ แม้ว่าเขาจะเกิดมาพร้อมภาวะใบหูผิดปกติ (Microtia) ก็ตาม
ก่อนอื่นขอแนะนำตัว ผมชื่อ ฮวน ปาโบล อายุ 34 ปี เป็นคุณหมอจากประเทศเม็กซิโก ตอนนี้ผมกำลังจะจบการศึกษาเฉพาะทางด้านโสตสัมผัสวิทยา (การแก้ไขปัญหาการได้ยิน) ซึ่งเป็นสาขาที่ผมรักและมีความเกี่ยวข้องกับชีวิตส่วนตัวของผมเอง เพราะผมเกิดมาพร้อมกับภาวะใบหูผิดปกติตั้งแต่กำเนิด (Microtia) ซึ่งทำให้ผมมีภาวะสูญเสียการได้ยินตั้งแต่เกิด ด้วยเหตุผลนี้จึงทำให้ผมเข้าใจความรู้สึกของผู้ที่มีปัญหาการได้ยินทุกท่านว่ารู้สึกเช่นไร
เส้นทางการได้ยินของผม
ตลอดช่วงวัยเด็กจนถึงอายุประมาณ 12 ปี ผมไม่เคยใช้อุปกรณ์ช่วยฟังเลย ทำให้การฟังและการสื่อสารกับคนอื่นเป็นเรื่องยากมาก โดยเฉพาะในที่ที่มีเสียงรบกวนเยอะ แต่ผมก็สามารถเรียนหนังสือได้ด้วยการช่วยเหลือจากครอบครัว และการฝึกอ่านปาก
จุดเปลี่ยนสำคัญคือมีคุณครูคนหนึ่งแนะนำให้แม่พาผมไปใช้อุปกรณ์ช่วยฟัง แม่ก็เห็นดีด้วย และหลังจากนั้นผมก็ได้พบกับ “โลกใบใหม่”
เสียงต่างๆ ค่อยๆ ชัดเจนขึ้น การสนทนาก็ง่ายขึ้น และผมก็รู้ตัวว่าผมไม่ได้ “ไม่ชอบเข้าสังคม” แต่จริงๆ แล้วแค่ผม “ไม่สามารถสื่อสารกับคนอื่นได้สะดวกก็เท่านั้นเอง” — คุณฮวน ปาโบล กล่าว
การค้นพบ ADHEAR และ BONEBRIDGE
เมื่อผมเริ่มเข้าสู่โลกของคนที่ได้ยินเสียง ผมสามารถเรียนจบแพทย์และเลือกเรียนเฉพาะทางด้านโสตสัมผัสวิทยาได้ ในตอนแรก ผมใช้อุปกรณ์ช่วยฟังแบบที่รัดกับศีรษะ แต่พบว่ามีข้อจำกัดทั้งในเรื่องคุณภาพเสียงและความสบายในการใช้งาน ซึ่งในระหว่างเรียน ผมได้รู้จักกับอุปกรณ์ที่ดีกว่าเดิม นั่นก็คือ ADHEAR และ BONEBRIDGE
ADHEAR เป็นเครื่องช่วยฟังชนิดนำเสียงผ่านกระดูกที่ให้เสียงชัดเจนกว่า และสวมใส่ง่ายกว่าแบบเดิมมาก
คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ADHEAR
ต่อมาผมก็ได้ตัดสินใจผ่าตัดฝังอุปกรณ์ BONEBRIDGE ซึ่งให้เสียงที่คมชัดยิ่งขึ้น เหมือนได้ยินจาก “HD” กลายเป็น “4K” เลยทีเดียว ความชัดเจนนี้ทำให้ผมรู้สึก “เป็นอิสระ” อย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน
คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ BONEBRIDGE
การได้ยินผ่านการนำเสียงทางกระดูก
เมื่อเปิดใช้งาน SAMBA 2 ซึ่งเป็นเครื่องประมวลผลเสียงที่เชื่อมกับ BONEBRIDGE ผมรู้สึกเหมือนหูค่อย ๆ เปิดออก แล้วก็เริ่มได้ยินเสียงชัดขึ้นเรื่อย ๆ ผมสามารถได้ยินเสียงรอบตัวชัดเจนขึ้น ทั้งเสียงลม เสียงฝีเท้า รวมถึง “เสียงของแม่” ที่ดัง และฟังชัดยิ่งกว่าสิ่งใด
ครั้งหนึ่งผมไปฟังคอนเสิร์ตวงซิมโฟนี รู้สึกได้ชัดเลยว่า:
“ผมสามารถฟังเสียงเครื่องดนตรีแต่ละชิ้นแยกออกจากกันได้เลย ขณะเดียวกันก็สามารถฟังทุกเสียงรวมกันได้อย่างลงตัว ถึงมันจะอธิบายยาก แต่เป็นประสบการณ์ที่สวยงามมากจริง ๆ” — คุณฮวน ปาโบล กล่าว
ชีวิตประจำวันกับการได้ยินที่ดีขึ้น
เครื่องนำเสียงผ่านกระดูกนี้ช่วยให้ชีวิตผมดีขึ้นใน 2 ด้านหลัก ๆ คือ
1. ทำให้ผมได้ยินเสียงของคนไข้ชัดเจน โดยไม่ต้องอ่านปากอีกต่อไป สามารถสนทนาและจดบันทึกได้สะดวก
2. ช่วยให้คนไข้รู้สึกมั่นใจในตัวผมมากขึ้น เพราะพวกเขาไม่ได้พูดคุยกับหมอทั่วไป แต่กับหมอที่เคยผ่านประสบการณ์เดียวกัน และเข้าใจจริง ๆ ว่าการมีปัญหาการได้ยินเป็นอย่างไร นั่นจึงช่วยให้พวกเขาเปิดใจยอมรับการใช้อุปกรณ์ช่วยฟังได้ง่ายขึ้น
คำแนะนำจากผมถึงคนที่มีภาวะสูญเสียการได้ยิน
ก้าวแรกคือ การยอมรับให้ได้ว่าคุณหรือคนในครอบครัวมีปัญหาการได้ยิน และ“การได้ยินคือของขวัญอันล้ำค่า” ที่ช่วยให้เรารับมือกับเรื่องต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันได้ง่ายขึ้น
ทุกวันนี้มีทางเลือกมากมายที่ช่วยให้เรามีชีวิตที่ดีขึ้น เพราะฉะนั้น อย่ากลัวที่จะเปิดใจและให้โอกาสตัวเองหรือคนที่เรารักได้ลองสิ่งใหม่ๆ เหล่านั้นนะครับ” — คุณฮวน ปาโบล กล่าว
ขอบคุณคุณฮวน ปาโบล
ที่แบ่งปันเรื่องราวที่สร้างแรงบันดาลใจนี้กับเรา
ที่มา MED-EL Blog
No responses yet