คำถาม: เราควรเลือกใส่เครื่องช่วยฟังกับหูข้างไหนดี?
คำตอบ: เรามีปัญหาที่หูข้างไหน ก็ควรใส่เครื่องช่วยฟังที่หูข้างนั้น

คำถาม: แล้วถ้าหูมีปัญหาทั้ง 2 ข้างล่ะ จะเลือกใส่ข้างไหนดี
คำตอบ:

1. กรณีสูญเสียการได้ยินข้างเดียว
กรณีสูญเสียการได้ยินข้างเดียว จะไม่มีปัญหาในการเลือกหู สามารถใส่เครื่องช่วยฟังในหูข้างที่มีปัญหาได้เลย ซึ่งหลังจากใส่เครื่องช่วยฟังแล้วจะช่วยให้การได้ยินในหูข้างนั้นดีขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้สามารถแยกทิศทางที่มาของเสียงได้อีกด้วย เพราะสามารถกลับมารับเสียงได้ 2 ข้างเช่นเดิมแล้วนั่นเอง

2. กรณีสูญเสียการได้ยินทั้ง 2 ข้าง

จากวลีที่กล่าวว่า “ หูตึงข้างไหนก็ใส่ข้างนั้น ดังนั้น หากมีปัญหาการได้ยินทั้ง 2 หู ก็ควรใส่เครื่องช่วยฟังทั้ง 2 ข้างเช่นกัน 

แต่ก่อนตัดสินใจใส่เครื่องช่วยฟังพร้อมกันทีเดียว 2 ข้าง ผู้ป่วยควรได้ทดลองฟังเสียงจากเครื่องช่วยฟังพร้อมกันทั้ง 2 ข้างก่อน ซึ่งหากไม่รู้สึกรำคาญขณะใส่ และเข้าใจเงื่อนไขการปรับตัวเข้ากับเครื่องช่วยฟังแล้วนั้น การใส่เครื่องช่วยฟังทั้ง 2 ข้าง ย่อมเป็นประโยชน์กับผู้ใช้งานมากกว่าการใส่เครื่องเพียงข้างเดียว 

ประโยชน์ของการใส่เครื่องช่วยฟัง 2 ข้าง 

  1. ช่วยเพิ่มความชัดเจนของเสียงพูด
  2. สามารถฟังเสียงได้รอบทิศและแยกทิศทางของเสียง
  3. ช่วยลดเสียงดังรบกวนในหู

    อย่างไรก็ตาม การใส่เครื่อง 2 ข้างก็มีข้อมีข้อเสียเช่นกัน คือมีค่าใช้จ่ายมากขึ้น หรือในผู้ป่วยบางรายอาจมีความอายหรือมีความรำคาญที่จะต้องใส่ 2 ข้าง

หากจำเป็นต้องเลือกใส่เครื่องช่วยฟังเพียงข้างเดียว ควรพิจารณาดังนี้

  1. หากหูทั้ง 2 ข้างมีระดับการได้ยิน น้อยกว่า 60 เดซิเบล ให้เลือกใส่ในหูข้างที่เสียมาก เนื่องจากระดับการสูญเสียการได้ยินยังอยู่ในระดับที่ยังพอได้ยินเสียงสนทนา ซึ่งหูข้างที่ดีกว่ายังพอฟังได้อยู่
  2. หากหูทั้ง 2 ข้างมีระดับการได้ยิน มากกว่า 60 เดซิเบล ให้เลือกใส่ในหูข้างที่ดี เพราะหูข้างที่เสียมากมักจะมีภาวะประสาทหูเสื่อม ความสามารถในการฟังเข้าใจคำพูดจะฟังได้ไม่ดีเท่ากับการใส่ในหูข้างที่ดี
  3. เลือกใส่หูข้างที่มีความสามารถในการเข้าใจคำพูดมากกว่า
  4. เลือกใส่หูข้างที่มีระดับใกล้เคียงกันทุกความถี่ (flat audiogram)
  5. เลือกใส่ในหูข้างที่มี recruitment น้อยกว่า

 

หากท่านยังไม่มั่นใจว่าเลือกใส่เครื่องช่วยฟังที่หูข้างไหนดี ท่านสามารถขอทดลองเครื่องช่วยฟังได้ทั้งสองหูเพื่อเปรียบเทียบคุณภาพเสียงในหูแต่ละข้างได้ก่อนตัดสินใจ

โดยสามารถทำนัดหมายพบผู้เชี่ยวชาญกับทางเราได้ที่ โทร 02-693-9411 หรือคลิก Line@

Tags

No responses yet

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *