โดยปกติแล้วเด็กจะเริ่มพูดคำศัพท์คำแรกได้เมื่ออายุประมาณ 1 ปี หากอายุ1ปีแล้วยังไม่พูด นี่เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงพัฒนาการทางภาษาและการพูดที่ล่าช้ากว่าวัย ผู้ปกครองไม่ควรนิ่งนอนใจหรือประวิงเวลาควรพาบุตรหลานไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาความผิดปกติโดยเร็วเพื่อที่จะได้วางแผนการตรวจวินิจฉัย รักษา และกระตุ้นฟื้นฟูพัฒนาการของเด็กให้สมวัยอย่างเร็วที่สุด

ในอดีตคนเรามักมีความเชื่อกันว่าสาเหตุที่ลูกพูดช้าอาจเป็นเพราะเมื่อตอนเด็กๆพ่อหรือแม่หรือคนในครอบครัวก็มีประวัติพูดช้าเช่นกัน แต่เมื่อโตขึ้นมาก็มีพัฒนาการทางภาษาและการพูดที่ปกติสมวัย ไม่มีปัญหาใดใดกระทบกับการดำเนินชีวิตประจำวันหรือเข้าโรงเรียน จึงมองเห็นเป็นเรื่องปกติธรรมดาและไม่คิดที่จะพาบุตรหลานไปพบแพทย์ ซึ่งจริงค่ะที่เด็กบางรายก็เข้าข่ายกรณีนี้ แต่ก็มีเด็กบางรายที่ไม่เข้าข่ายกรณีนี้เหมือนกันซึ่งน่าสงสารมากที่เด็กคนนึงจะต้องเสียโอกาสทางการเรียนรู้ภาษาและการพูดในช่วงเริ่มต้นไป กว่าผู้ปกครองจะสังเกตรู้ได้อีกทีก็อาจจะสายไปเสียแล้วเพราะพัฒนาการของลูกหลานเราล่าช้ากว่าเพื่อนๆในวัยเดียวกันกับเขามาก ยกตัวอย่างเช่น พึ่งทราบเมื่อพาไปเข้าศูนย์เด็กเล็ก หรือเข้าโรงเรียน ซึ่งเด็กก็มีอายุ3ปีขึ้นไปแล้ว และยังไม่พูดเลย ในขณะที่เด็กคนอื่นในวัยเดียวกันสามารถพูดรู้เรื่องแล้ว

สิ่งสำคัญที่พ่อแม่ผู้ปกครองทุกท่านควรทราบคือพัฒนาการของเด็กเริ่มต้นตั้งแต่ที่ลืมตาขึ้นมาดูโลก โดยเด็กจะเรียนรู้ภาษาจาก เสียงของแม่ และเสียงในสิ่งแวดล้อมตั้งแต่แรกเกิด สะสมประสบการณ์การได้ยินโดยการฟังเสียงต่างๆรอบตัวทุกวันๆจนกระทั่งเริ่มเรียนรู้ที่จะพูดเป็นคำที่มีความหมายคำแรกได้ขณะอายุ 1 ปี จะเห็นได้ว่าการได้ยินจะเป็นจุดเริ่มต้นของการพูด หากเด็กเกิดมามีการได้ยินที่ปกติ สามารถได้ยินทุกอย่างที่พ่อแม่พูดคุยด้วย สามารถได้ยินเสียงต่างๆในสิ่งแวดล้อมก็สามารถที่จะเรียนรู้ที่จะพูดออกเสียงตามสิ่งที่ได้ยินมาตลอดระยะเวลา1ปีได้

ดังนั้นเมื่อลูกไม่พูด สิ่งแรกที่แพทย์จะทำคือส่งบุตรหลานของท่านไปตรวจการได้ยินก่อนเพื่อเช็คว่าหูเด็กมีปัญหาหรือไม่ ถ้าหูไม่มีปัญหา แพทย์ก็จะส่งปรึกษานักแก้ไขการพูดหรือนักกระตุ้นพัฒนาการเพื่อทำการกระตุ้นภาษาและการพูดของเด็กเป็นลำดับต่อไป

Tags

No responses yet

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *