เรื่องราวของคุณซิลเวียกับการได้ยินแบบสองโหมด (Bimodal Hearing)

การได้ยินแบบสองโหมด (Bimodal Hearing) คือการใช้อุปกรณ์ช่วยการได้ยิน “คนละชนิด” ในหูแต่ละข้าง ข้างหนึ่งใส่เครื่องช่วยฟัง (Hearing Aid) และอีกข้างหนึ่งใส่ประสาทหูเทียม (Cochlear Implant)

คุณซิลเวีย คือหนึ่งในผู้ที่ใช้อุปกรณ์การได้ยินแบบสองโหมด ซึ่งการได้ยินเสียงนั้น ทำให้เธอสามารถเดินทางรอบโลก พบปะผู้คน และต่อยอดแรงบันดาลใจในการทำงานออกแบบและตัดเย็บเสื้อผ้าสตรี

การเป็นผู้ใช้การได้ยินแบบสองโหมด (Bimodal hearing)

สวัสดีค่ะ ฉันชื่อซิลเวีย ปัจจุบันพักอยู่ที่เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ฉันใช้งานอุปกรณ์ช่วยการได้ยินแบบสองโหมด คือมีเครื่องช่วยฟังข้างหนึ่ง และประสาทหูเทียมอีกข้าง เดิมทีฉันเคยใช้งานเครื่องฝังนำเสียงผ่านกระดูก (Bone Conduction Implant) แต่เมื่อการได้ยินแย่ลง ฉันจึงได้ตัดสินใจผ่าตัดฝังประสาทหูเทียม ส่วนอีกข้างยังคงใช้เครื่องช่วยฟังอยู่เหมือนเดิม

ความฝันด้านการออกแบบและสร้างสรรค์เสื้อผ้า

ปัจจุบันฉันมีแบรนด์เสื้อผ้าเป็นของตัวเอง โดยเน้นการผลิตอย่างยั่งยืน ด้วยดีไซน์คลาสสิกที่สวมใส่ได้ตลอด เหมาะสำหรับผู้หญิงวัย 40 ปีขึ้นไป โดยส่วนใหญ่แล้วฉันเป็นคนออกแบบ ทำแพทเทิร์น และตัดเย็บเสื้อผ้าด้วยตัวเองเกือบทั้งหมด ผ้าหลายชิ้นฉันก็เป็นคนลงมือย้อมและทำลวดลายด้วยตัวเอง

ฉันชอบเดินทางไปเที่ยวที่ต่าง ๆ ทั่วโลก เพราะมันทำให้ฉันได้เรียนรู้เทคนิคด้านการทอผ้าจากหลายประเทศ และไม่นานมานี้ก็ได้มีโอกาสไปที่เมืองอินส์บรุค ประเทศออสเตรีย ซึ่งเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของ MED-EL อีกด้วย

เส้นทางการได้ยินของฉัน

ฉันเริ่มสูญเสียการได้ยินตั้งแต่อายุ 40 ต้น ๆ แต่ตอนนั้นยังไม่ได้รีบหาทางแก้ จนวันหนึ่งฉันไปเดินเล่นกับสามีที่สวนสาธารณะ แล้วพูดขึ้นว่า ‘ทำไมไม่มีเสียงนกเลย’ แต่สามีกลับตอบว่า ‘มีสิ นกเต็มไปหมดเลย’ นั่นเป็นครั้งแรกที่ฉันตระหนักว่าตัวเองกำลังสูญเสียการได้ยินจริง ๆ

เมื่อเวลาผ่านไป การสูญเสียการได้ยินก็รุนแรงขึ้น แต่ฉันก็ยังไม่อยากใส่เครื่องช่วยฟัง เพราะมองว่ามันเป็นอุปกรณ์ของผู้สูงอายุ และฉันยังรู้สึกว่าตัวเองไม่แก่ แต่สุดท้ายแล้ว ฉันจึงตัดสินใจไปพบผู้เชี่ยวชาญ และได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น “โรคหินปูนเกาะกระดูกหู (Otosclerosis)” ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรม ทำให้กระดูกโกลน (Stapes) แข็งตัวและเคลื่อนไหวได้น้อยลง ส่งผลให้เสียงไม่สามารถส่งผ่านไปยังหูชั้นในได้ตามปกติ

การรักษาขั้นแรก คือ การผ่าตัดใส่กระดูกโกลนเทียม (Stapes Prosthesis) ในหูซ้าย ซึ่งช่วยให้ได้ยินเสียงต่ำดีขึ้น แต่กลับทำให้เสียงสูงหายไป ขณะเดียวกัน ฉันก็ได้รับเครื่องช่วยฟังสำหรับหูอีกข้าง ในตอนแรกยังไม่ค่อยยอมใส่เพราะมองว่าเป็นอุปกรณ์ของผู้สูงอายุ

ประมาณ 10 ปีต่อมา ฉันจึงได้ผ่าตัดฝังเครื่องนำเสียงผ่านกระดูก BONEBRIDGE ที่หูซ้าย ซึ่งช่วยส่งเสียงจากด้านซ้าย ผ่านกะโหลกศีรษะไปยังหูขวาที่ได้ยินดีกว่า ทำให้ฉันได้ยินเสียงรอบทิศทางชัดเจนมากขึ้น

การตัดสินใจผ่าตัดฝังประสาทหูเทียม

เมื่อเวลาผ่านไป แม้ฉันจะมีทั้ง BONEBRIDGE และเครื่องช่วยฟัง แต่ก็ยังฟังบทสนทนาได้ไม่ชัด โดยเฉพาะคำสำคัญในประโยค เวลาคุยกับครอบครัวหรือเพื่อนมักต้องให้พูดย้ำซ้ำหลายรอบ จนบางครั้งรู้สึกเหนื่อยและเสียบรรยากาศไปบ้าง

ฉันพยายามปรับตัว เช่น ให้คนพูดอยู่ด้านขวา คอยดูปากเพื่อช่วยเดาคำ หรือให้สามีช่วยพูดซ้ำ แต่สุดท้ายก็ยังไม่พอ และเมื่อการได้ยินด้านซ้ายแย่ลง นักแก้ไขการได้ยินจึงแนะนำให้ฉันผ่าตัดฝังประสาทหูเทียม

ฉันเลือกใช้ MED-EL เพราะคุ้นเคยกับบริษัทนี้อยู่แล้ว จากการใช้งาน BONEBRIDGE ปัจจุบันฉันใช้งานเครื่องประมวลเสียง SONNET 2 และ RONDO 3 ส่วนหูขวาอาจต้องผ่าตัดฝังประสาทหูเทียมในอนาคต หากการได้ยินแย่ลงอีก

การฟื้นฟูการได้ยินและเป้าหมายในอนาคต

เพื่อให้สมองคุ้นเคยกับเสียงใหม่ได้เร็วขึ้น ฉันพยายามใส่เครื่องประมวลเสียงให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ฉันเชื่อว่าการใช้งานอย่างสม่ำเสมอ และการฝึกฝนเป็นประจำ คือกุญแจสำคัญในการฟังเสียงให้ดีขึ้น

ทุกวันฉันฝึกฟังด้วยหลายวิธี เช่น ใช้แอป Hearoes ทำกิจกรรมฝึกฟัง และฟังหนังสือเสียง (Audiobooks) ไปพร้อมกับการอ่านหนังสือฉันหวังว่าการได้ยินจะพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ และเสียงที่ทำให้ฉันมีความสุขที่สุด ก็คือเสียงแมวของฉันคราง มันเป็นเสียงที่ทำให้ฉันรู้สึกอบอุ่นทุกครั้งที่ได้ยิน

ขอบคุณคุณซิลเวีย
ที่มา MED-EL

Tags

No responses yet

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *