ผู้ที่ทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมจะปฏิบัติงานกับเครื่องจักรทั้งทางตรงและทางอ้อม ซึ่งเครื่องจักรกลเหล่านี้มักจะส่งเสียงดังในขณะกำลังทำงาน ซึ่งดังมากดังน้อยขึ้นอยู่กับขนาดของเครื่องจักรและลักษณะการทำงาน ทั้งนี้จึงมีกฎหมายเรื่องการควบคุมเสียงภายในโรงงาน หากมีการตรวจพบว่าโรงงานไหนมีเสียงดังมากเกินมาตรฐาน จะถือว่าผิดกฎหมายมลพิษทางเสียงและความสั่นสะเทือนเนื่องจากเสียงดังกล่าวส่งผลต่อสุขภาพของพนักงาน
แหล่งกำเนิดเสียง
1.เสียงจากเครื่องจักรขนาดใหญ่
2.เสียงจากการเคลื่อนย้ายและการขนส่งสิ่งของ
3.เสียงจากการปฏิบัติงานของพนักงานโดยใช้เครื่องมือต่างๆ
จากสาเหตุข้างต้นทำให้มีการกำหนดระยะเวลาในการสัมผัสเสียงโดยคำนวณจากระดับความดังและชั่วโมงการสัมผัสเสียงดังหากมีระดับความดังมากก็จะอนุญาตให้สัมผัสเสียงในเวลาทำงานได้ลดลงแสดงดังตาราง
ตารางแสดงมาตรฐานระยะเวลาการทำงานกับระดับเสียงเฉลี่ยตลอดเวลาการทำงาน
เวลาการทำงานที่ได้รับเสียง (ชั่วโมง) | ระดับเสียงเฉลี่ยตลอดเวลา การทำงานไม่เกิน เดซิเบลเอ |
12 | 87 |
8 | 90 |
6 | 92 |
4 | 95 |
3 | 97 |
2 | 100 |
1 ½ | 102 |
1 | 105 |
½ | 110 |
¼ | 115 |
ผลกระทบจากเสียงที่ดัง
- ส่งผลกระทบต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิตของพนักงาน
- เสียงเครื่องจักรที่ดังเกินไปจะขัดขวางการสื่อสาร ทำให้ได้ข้อมูลที่ครบถ้วน ส่งผลให้เกิดการผิดพลาดในการประสานงาน
- เสียงที่ดังมากเกินไปจะทำลายประสาทหู และอาจทำให้หูหนวกหรือหูตึงได้
วิธีการแก้ไข
- หากพนักงานจำเป็นจะต้องทำงานสัมผัสเสียงดังอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ต้องมีมาตรการให้พนักงานสวมเอียปลั๊กหรือเอียมั๊ฟเพื่อลดเสียงที่เข้าสู่หูและเป็นการป้องกันเสียงทำลายประสาทหู
- ทำห้องเก็บเสียงในบริเวณที่มีเครื่องจักร เพื่อไม่ให้เสียงเครื่องจักรเล็ดลอดออกไปรบกวนพนักงานในแผนกอื่นๆ
- เปลี่ยนวัสดุอุปกรณ์บางตัวหรือใช้วัสดุที่ซับเสียงของเครื่องจักรเพื่อลดเสียงดังที่เกิดจากการทำงานของเครื่อง
- ใช้การสื่อสารแบบสัญลักษณ์หรือสัญญาณมือภายในห้องที่มีเสียงดังแทนการพูดคุย
No responses yet