ประสาทหูเทียม (Cochlear Implant) คืออะไร? การทำงานเป็นอย่างไร? 

ประสาทหูเทียม คืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ช่วยฟื้นฟูการได้ยิน โดยออกแบบมาสำหรับผู้ที่สูญเสียการได้ยินระดับรุนแรงถึงหูหนวก ซึ่งไม่สามารถใช้งานเครื่องช่วยฟังทั่วไปได้ผลดีแล้ว

 

ส่วนประกอบหลักของประสาทหูเทียม ได้แก่

  • อุปกรณ์ภายนอก: เครื่องประมวลเสียง
  • อุปกรณ์ภายใน: Implant ฝังไว้ภายในผิวหนัง ตรงส่วนหลังใบหูของผู้ป่วย 

ซึ่งทั้งสองจะทำงานร่วมกัน และส่งสัญญาณตรงเข้าสู่เส้นประสาทรับรู้การได้ยิน 

นอกจากนี้ บางท่านที่มีปัญหาการได้ยินอาจมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับประสาทหูเทียม ซึ่งวันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจเกี่ยวกับ 10 คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับ “ประสาทหูเทียม” พร้อมคำตอบที่ถูกต้อง เพื่อให้คุณเข้าใจเกี่ยวกับอุปกรณ์นี้มากขึ้น

1. ประสาทหูเทียมใช้ได้เฉพาะกับเด็กที่หูหนวกตั้งแต่เกิด จริงไหม?
คำตอบ: ไม่จริง! ประสาทหูเทียมสามารถใช้ได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ที่สูญเสียการได้ยินอย่างรุนแรงในภายหลัง โดยไม่จำเป็นต้องหูหนวกตั้งแต่เกิดเท่านั้น

 

2. ประสาทหูเทียมคือเครื่องช่วยฟังแบบหนึ่ง ใช่ไหม?
คำตอบ: ไม่ใช่! เครื่องช่วยฟังจะทำหน้าที่ขยายเสียงให้หูได้ยินดังและชัดขึ้น ส่วนประสาทหูเทียมจะกระตุ้นประสาทหูโดยตรง เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาการได้ยินอย่างรุนแรงจนเครื่องช่วยฟังช่วยไม่ได้แล้ว

 

3. ประสาทหูเทียมเหมาะสำหรับทุกคนที่มีปัญหาการได้ยิน ใช่ไหม?
คำตอบ: ไม่ใช่! ประสาทหูเทียมเหมาะสำหรับผู้ที่สูญเสียการได้ยินอย่างรุนแรงถึงระดับหูหนวกและไม่ได้ผลดีจากเครื่องช่วยฟังทั่วไป โดยจะต้องประเมินโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทั้งด้านโสตประสาทและการฟื้นฟูการได้ยินก่อนว่าเหมาะกับแต่ละบุคคลหรือไม่

 

4. เด็กเล็กไม่ควรใส่ประสาทหูเทียมใช่ไหม?
คำตอบ: ไม่ใช่! เด็กสามารถใส่ได้ตั้งแต่อายุ 9–12 เดือน

📌 แต่ต้องผ่านการประเมินจากแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านการได้ยินก่อนเสมอ เพื่อให้แน่ใจว่าเหมาะสมและปลอดภัย

 

5. คนที่ได้รับประสาทหูเทียมจำเป็นต้องฝึกฟังและพูดหลังการผ่าตัดไหม?
คำตอบ: จำเป็นมาก! การฝึกฟังและพูดเป็นส่วนสำคัญในการปรับตัวกับเสียงจากประสาทหูเทียม โดยเฉพาะในเด็กและผู้ใหญ่ที่เพิ่งเริ่มใช้งาน

 

6. ใส่ประสาทหูเทียมแล้วสามารถโทรศัพท์ ฟังเพลง หรือดูหนังได้เลยไหม?
คำตอบ: สามารถทำได้!
📌 แต่อาจต้องใช้เวลาในการปรับตัวและฝึกฝน เพราะเสียงที่ได้จากประสาทหูเทียมอาจแตกต่างจากเสียงที่เคยได้ยิน โดยเฉพาะการฟังภาษาผ่านโทรศัพท์หรือในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงรบกวน ต้องมีการฝึกฟังร่วมกับผู้เชี่ยวชาญ

 

7. ใส่ประสาทหูเทียมแล้วจะพูดได้เลยไหม?
คำตอบ: ไม่ทันที! ต้องอาศัยการฝึกพูดและฝึกฟังควบคู่กันไป โดยเฉพาะในเด็กที่สูญเสียการได้ยินตั้งแต่เล็ก การฟื้นฟูอย่างต่อเนื่องก็จะช่วยพัฒนาทักษะการฟังและการพูดให้ดีขึ้น

✅ ดังนั้น การฟื้นฟูและฝึกฝนคือหัวใจสำคัญที่จะทำให้ผู้ใช้สามารถกลับมาสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

8. ต้องเปลี่ยนอุปกรณ์ทุกปีไหม?
คำตอบ: ไม่จำเป็น!
📌 ตัว implant ที่ฝังไว้ภายในสามารถใช้งานได้นาน 10–20 ปีหรือมากกว่านั้นหากไม่มีปัญหา ส่วนอุปกรณ์ภายนอกอาจเปลี่ยนตามเทคโนโลยีหรือการใช้งาน
📌 ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลและยี่ห้อของอุปกรณ์ด้วย

 

9. คนที่ใส่ประสาทหูเทียมห้ามเล่นกีฬาใช่ไหม?
คำตอบ: ไม่ใช่! สามารถเล่นกีฬาได้ปกติ แต่ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่เสี่ยงกระแทกศีรษะ และควรใส่อุปกรณ์ป้องกันเสมอ

 

10. การผ่าตัดใส่ประสาทหูเทียมเป็นเรื่องเสี่ยงมากใช่ไหม?
คำตอบ: ไม่ใช่! การผ่าตัดใส่ประสาทหูเทียมถือว่าปลอดภัยสูง โดยมีอัตราความสำเร็จสูงและภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงเกิดขึ้นน้อยมาก
อัตราการเกิดภาวะแทรกซ้อนหลังการผ่าตัดมีน้อย โดยภาวะแทรกซ้อนเล็กน้อยพบประมาณ 9.5% และภาวะแทรกซ้อนรุนแรงพบเพียง 0.7% เท่านั้น
อัตราความอยู่รอดของอุปกรณ์ประสาทหูเทียมในระยะเวลา 10 ปีอยู่ที่ประมาณ 94.4% และอัตราความอยู่รอดของอุปกรณ์เองอยู่ที่ประมาณ 96.0%

อย่างไรก็ตาม เช่นเดียวกับการผ่าตัดอื่น ๆ ยังมีความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น เช่น การติดเชื้อ การบาดเจ็บของเส้นประสาทใบหน้า หรือเวียนศีรษะ ซึ่งพบได้น้อยและมักสามารถจัดการได้

การเลือกใช้ประสาทหูเทียมเป็นการตัดสินใจที่สำคัญ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ที่มีปัญหาการได้ยินอย่างรุนแรงสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่ หากคุณมีข้อสงสัยเพิ่มเติมหรือสนใจคำปรึกษาเกี่ยวกับการได้ยิน สามารถติดต่อเราได้ที่:
📩 Facebook: hearLIFE Thailand
📞 โทร: 02-693-9411

 

แหล่งอ้างอิง
American Academy of Pediatrics

American Cochlear Implant Alliance
ASHA Leader
Boys Town National Research Hospital
Johns Hopkins Medicine
Mayo Clinic
National Institute on Deafness and Other Communication Disorders – NIDCD
UCSF Health
JAMA Network

Tags

No responses yet

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *