หูเป็นอวัยวะสำคัญที่ไม่เพียงช่วยให้เราได้ยินเสียงรอบตัว แต่ยังมีบทบาทสำคัญต่อการทรงตัวและความสมดุลของร่างกาย การดูแลสุขภาพหูอย่างถูกวิธีจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ไม่ควรมองข้าม เพื่อป้องกันการสูญเสียการได้ยินและปัญหาสุขภาพหูอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต มาทำความรู้จักกับ 9 วิธีดูแลสุขภาพหูที่คุณสามารถทำได้ด้วยตัวเอง
1. ระวังการสัมผัสเสียงดังจนเกินไป
การฟังเพลงหรือเสียงที่ดังจนเกินไปผ่านหูฟังเป็นระยะเวลานาน อาจส่งผลเสียต่อประสาทหูและนำไปสู่การสูญเสียการได้ยินแบบถาวรได้ ควรปรับระดับเสียงให้พอเหมาะ และพักการใช้หูฟังเป็นระยะ ๆ หรือเช็กว่าแค่ไหนถึงเรียกว่าดังได้ที่
*** องค์การอนามัยโลกให้คำแนะนำไว้ว่า เราไม่ควรฟัง เสียงที่ดังเกินกว่า 85 เดซิเบล ติดต่อกัน 8 ชั่วโมง และ ระดับเสียงที่ดัง 100 เดซิเบล ติดต่อกัน 15 นาที โดยสามารถเช็กระดับเสียวดัว
2. สวมที่อุดหูเมื่ออยู่ในพื้นที่เสียงดัง
เมื่อต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดังมาก เช่น คอนเสิร์ต โรงงาน หรือพื้นที่ก่อสร้าง ควรสวมที่อุดหูหรือที่ครอบหูที่ได้มาตรฐาน เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับประสาทหู
3. ทำความสะอาดหูอย่างถูกวิธี
การดูแลความสะอาดหูควรทำด้วยความระมัดระวัง โดยใช้ผ้าสะอาดหรือสำลีชุบน้ำอุ่นเช็ดเฉพาะบริเวณใบหูและรอบนอก หลีกเลี่ยงการแคะหูด้วยของแข็งหรือวัสดุที่อาจทำให้แก้วหูเสียหาย
4. เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์
อาหารที่อุดมด้วยวิตามิน A, C, E และแร่ธาตุอย่างแมกนีเซียม ช่วยบำรุงประสาทหูและระบบการได้ยินให้แข็งแรง ควรรับประทานผักผลไม้สดและอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน
5. ใส่ใจเป็นพิเศษเมื่อเป็นหวัด
ในช่วงที่เป็นหวัด ควรระมัดระวังการสั่งน้ำมูกแรง ๆ หรือการอุดจมูกเพียงข้างเดียวขณะสั่งน้ำมูก เพราะอาจทำให้เชื้อโรคเข้าสู่หูชั้นกลาง และก่อให้เกิดภาวะหูน้ำหนวกได้
6. ระวังภาวะภูมิแพ้
ผู้ที่มีอาการภูมิแพ้เป็นประจำ ควรหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นที่อาจก่อให้เกิดอาการ และควรดูแลรักษาอาการอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากภูมิแพ้อาจนำไปสู่การอักเสบของหูและปัญหาสุขภาพหูอื่นๆ ได้ นอกจากนี้ การดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงและการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอยังช่วยลดอาการภูมิแพ้ และลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่าง ๆ อีกด้วย
7. ป้องกันการกระทบกระเทือน
ระมัดระวังอย่างให้หูได้รับแรงกระแทกรุนแรง เพราะอาจส่งผลให้แก้วหูฉีกขาดหรือกระดูกหูเคลื่อน ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาการได้ยินที่บกพร่องได้
8. สังเกตความผิดปกติ
หากพบอาการผิดปกติ เช่น หูอื้อ ปวดหู มีอาการคัน มีหนองไหล หรือได้ยินเสียงไม่ชัดเจน ควรรีบปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านหู คอ จมูก เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรักษาอย่างทันท่วงที
9. ตรวจสุขภาพหูเป็นประจำ
ควรเข้ารับการตรวจสุขภาพหูอย่างน้อยปีละครั้ง หรือทุก 6 เดือนสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยง เพื่อติดตามสภาพการได้ยินและป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
การดูแลสุขภาพหูเป็นเรื่องที่ควรให้ความสำคัญตั้งแต่วัยเด็กจนถึงวัยชรา เพราะการสูญเสียการได้ยินมักเกิดขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปและอาจไม่สามารถรักษาให้กลับคืนมาได้ การป้องกันและดูแลอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการรักษาประสิทธิภาพการได้ยินให้คงอยู่ไปตลอดชีวิต
หากคุณสังเกตพบความผิดปกติใด ๆ เกี่ยวกับการได้ยิน อย่าลังเลที่จะปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพราะการวินิจฉัยและรักษาแต่เนิ่นๆ จะช่วยป้องกันไม่ให้ปัญหาลุกลามจนยากแก่การแก้ไข
หากต้องการตรวจเช็กการได้ยิน อุปกรณ์ป้องกันการได้ยิน เครื่องช่วยฟัง ประสาทหูเทียม หรือปรึกษาด้านการได้ยินสามารถติดต่อเราได้ที่ hearLIFE Thailand หรือโทร 02-693-9411
ข้อมูลจาก
คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
Nakornthon Hospital
National Center for Biotechnology Information
No responses yet