เมื่อพูดถึงการรักษาสิ่งที่ทุกคนนึกถึงคงเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก “ยา” ในปัจจุบันยามีให้เลือกมากมายหลากหลายชนิดเพื่อให้ครอบคลุมการรักษาโรคภัยต่างๆ ที่นับวันดูเหมือนจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ การใช้ยาให้เหมาะสมจึงเป็นเรื่องสำคัญ การใช้ยาในปริมาณที่มากเกินไป ผิดวิธี ผิดระยะเวลา อาจจะเปลี่ยนจากการรักษาเป็นผลเสียได้โดยพิษต่อระบบประสาทหูอาจเกิดขึ้นได้จากการใช้ยาหรือสารต่างๆที่ส่งผลกระทบต่อระบบหูชั้นในหรือเส้นประสาทที่เกี่ยวข้องกับการได้ยิน

รูปแบบอาการที่สามารถเกิดได้ เช่น ได้ยินเสียงดังในหู วิงเวียนบ้านหมุน ได้ยินเสียงดังมากกว่าปกติ หรือ หูตึง พิษจากการใช้ยาที่มีผลต่อระบบประสาทหูนั้นอาจเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วหรือค่อยๆเกิดขึ้นก็ได้ โดยมีโอกาสที่พิษนั้นจะคงอยู่ในระบบประสาทหูอย่างถาวรได้ด้วยเช่นกัน กลุ่มอาการพิษต่อหูสามารถแบ่งได้ 2 กลุ่มใหญ่ แบ่งตามส่วนที่เกิดความเสียหายของระบบหูชั้นใน คือ cochlear dysfunction และ Vestibular dysfunction 

อาการที่อาจเกิดหลังใช้ยาที่เกิดพิษต่อระบบประสาทหู

1. อาการ Cochlear dysfunction ได้แก่ ไม่ได้ยินเสียงที่เบา (early-hearing impairment) หูหนวก (deafness) ได้ยินเสียงผิดปกติในหู (tinnitus)

2. อาการ Vestibular dysfunction ได้แก่ อาการวิงเวียงศีรษะ(dizziness) บ้านหมุน(vertigo)

รายการยาที่ก่อให้เกิดพิษต่อระบบประสาทหู

กลุ่มยาฆ่าเชื้อ neomycin , gentamicin, amikacin, vancomycin, erythromycin , azithromycin

กลุ่มยาด้านมาลาเรีย quinine

กลุ่มยาเคมีบำบัด cisplatin, carboplatin, oxaliplatin

กลุ่มยาขับปัสสาวะ furosrmide

กลุ่มยาแก้ปวด aspirin

 

Tags

No responses yet

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *