อาการของโรค หูดับฉับพลัน
กรณีเป็นข้างเดียวผู้ป่วยจะมีอาการหูอื้อหรือการได้ยินลดลงในหูข้างที่เป็นอย่างเฉียบพลัน มักไม่ค่อยได้ยินเสียงเมื่อผู้พูดอยู่ไกล มีความลำบากในการพูดคุยในที่ที่มีเสียงรบกวน แต่เมื่ออยู่ในที่เงียบมักไม่มีปัญหา ซึ่งในกลุ่มผู้ป่วยที่เป็นโรค หูดับฉับพลัน ข้างเดียวนี้ส่วนใหญ่มักเป็นถาวร เนื่องจากไม่ทันสังเกต หรือรู้ตัวช้า ซึ่งกว่าจะทราบว่าตนมีอาการก็อาจไปรับรักษาไม่ทันแล้ว
แนวทางการรักษาโรคหูดับฉับพลัน
หากผู้ป่วยมาพบแพทย์เร็ว และได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม มีโอกาสสูงที่การได้ยินอาจกลับมาเป็นปกติได้ (ส่วนใหญ่การได้ยินมักจะดีขึ้น ภายใน 2 สัปดาห์แรก)
สำหรับบางรายมีโอกาสหายได้เองสูงถึงร้อยละ 60-70 แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว เมื่อเกิดอาการประสาทหูเสื่อมแล้วมักจะไม่สามารถรักษาประสาทหูที่เสื่อมให้กลับคืนมาเป็นสภาพปกติได้ การรักษาจะเป็นการรักษาตามอาการที่เกิดขึ้น เช่นให้ทานยาแก้เวียนเมื่อมีอาการเวียนศีรษะ เป็นต้น หรือการให้ยาลดการอักเสบของประสาทหู และเซลล์ประสาทหู จำพวกสเตียรอยด์ หรือยาวิตามินที่ช่วยบำรุงประสาทหู
การนอนพัก เพื่อลดการรั่วของน้ำในหูชั้นในเข้าไปในหูชั้นกลาง แนะนำให้ผู้ป่วยนอนพัก โดยยกศีรษะสูงประมาณ 30 องศาจากพื้นราบเพื่อให้มีความดันในหูชั้นในน้อยที่สุด และไม่ควรทํางานหนัก หรือออกกําลังกายที่หักโหม ในบางรายแพทย์อาจแนะนําให้นอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาลประมาณ 1-2 สัปดาห์ โดยแพทย์จะส่งตรวจวัดระดับการได้ยินเป็นระยะๆเพื่อประเมินผลการรักษา และอาจนัดติดตามผู้ป่วยในระยะยาว เนี่อง จาก ผู้ป่วยบางรายที่ไม่ทราบสาเหตุ อาจพบสาเหตุในภายหลังได้
สำหรับตัวผู้ป่วยเองก็ควรป้องกันไม่ให้ประสาทหูเสื่อมมากขึ้น โดยควร
- หลีกเลี่ยงเสียงดัง
- ควบคุมโรคประจำตัวให้ดี (โรคเบาหวาน, ความดันโลหิตสูง, ไขมันในเลือดสูง, โรคไต, โรคกรดยูริกในเลือดสูง,โรคซีด, โรคเลือด )
- หลีกเลี่ยงการใช้ยาที่มีพิษต่อประสาทหู เช่น aspirin, aminoglycoside, quinin
- หลีกเลี่ยงอุบัติเหตุ หรือการกระทบกระเทือนบริเวณหู
- หลีกเลี่ยงการติดเชื้อของหู หรือการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจส่วนบน
- ลดอาหารเค็ม
- งดหรือลดเครื่องดื่มบางประเภทที่มีสารกระตุ้นประสาท เช่นกาแฟ, ชา, น้ำอัดลม
- งดสูบบุหรี่
- ออกกําลังกายสม่ำเสมอ เพื่อลดความเครียด วิตกกังวล
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
No responses yet