เครื่องช่วยฟัง คืออะไร?
เครื่องช่วยฟังคือ เครื่องขยายเสียงขนาดเล็กที่สามารถใส่ติดไว้ที่หู ทำหน้าที่ขยายเสียงต่าง ๆ ให้ดังขึ้น ทำให้ผู้ที่มีอาการสูญเสียการได้ยินได้รับเสียงที่มีความดังเพิ่มขึ้นจนสามารถได้ยินเสียงได้
การเลือกเครื่องช่วยฟังนั้นจะพิจารณาเลือกให้มีความเหมาะสมกับระดับการสูญเสียการได้ยินของผู้สวมใส่ แต่เพื่อให้ผู้สวมใส่มีการได้ยินเสียงที่ดีขึ้นกว่าเดิม จึงมีการนำฟังก์ชั่น และเทคโนโลยีต่าง ๆ เพิ่มเข้าไปในเครื่องช่วยฟัง โดยเครื่องช่วยฟังที่มีฟังก์ชั่นเยอะๆก็จะมีราคาสูงขึ้นตามฟังก์ชั่นที่เพิ่มขึ้นนั่นเอง
โดยปกติแล้วเครื่องช่วยฟังทั่ว ๆ ไป จะมีฟังก์ชั่นพื้นฐานดังนี้
- การปรับแต่งกำลังขยาย
- การปรับแต่งระดับความดังเสียง
- การปรับแต่งเสียงความถี่ต่ำ
- การปรับแต่งเสียงความถี่สูง
- มีจำนวนช่องสัญญาณ 4 ถึง 6 ช่องสัญญาณ
- มีการเคลือบสารกันความชื้น
ซึ่งในเครื่องช่วยฟังรุ่นอื่นๆที่เพิ่มเติมฟังก์ชั่นต่างๆ จะมีช่องสัญญาณเพิ่มขึ้นมากกว่าปกติ โดยมีสูงสุดถึง 48 ช่องสัญญาณ เลยทีเดียว ซึ่งการที่เครื่องช่วยฟังมี ช่องสัญญาณเพิ่มขึ้น ก็จะสามารถปรับแต่งคุณภาพเสียงได้อย่างละเอียดเพิ่มขึ้น และสอดคล้องกับลักษณะการสูญเสียการได้ยินของผู้สวมใส่ได้มากขึ้น ส่งผลให้มีคุณภาพเสียงใกล้เคียงกับธรรมชาติมากยิ่งขึ้น เสียงรบกวนลดลงทำให้ผู้ใช้งานสามารถจับใจความเสียงได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ในเครื่องช่วยฟังบางรุ่นยังสามารถเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือได้ เช่น เชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือผ่านการติดอุปกรณ์แม่เหล็ก หรือ เชื่อมต่อผ่านทางบลูทูธได้ ทำให้สามารถควบคุมการทำงานผ่านทาง Application ได้อีกด้วย
ตัวอย่างเทคโนโลยีที่มีในเครื่องช่วยฟัง มีดังต่อไปนี้
-
- Omni directionality หรือ การรับเสียงเท่า ๆ กันรอบทิศทาง ซึ่งไม่ว่าผู้ใช้งานจะหันหน้าไปทางไหน ไมโครโฟนก็จะสามารถรับเสียงได้เท่ากันทั้งหมด ทำให้ผู้ใช้งานสามารถรับเสียงได้ทุกเสียงอย่างไม่มีตกหล่น
- Speech focus/Fixed/Auto-steered directionality คือการที่ไมโครโฟนปรับตามทิศทางของเสียงคำพูดอัตโนมัติ ไม่ว่าเสียงพูดจะมาจากทิศทางใด ไมโครโฟนของเครื่องช่วยฟังจะสามารถจับเสียงคำพูดได้จากทุกทิศทาง
- ระบบตัดเสียงหวีดหอนแบบอัตโนมัติ ด้วยระบบ Auto DFS จะช่วยตัดลดเสียงหวีดหอนที่อาจเกิจขึ้นขณะใช้งานได้โดยอัตโนมัติ ช่วยให้ได้ยินเสียงชัดเจนปราศจากเสียงหวีดหอนรบกวน
- ระบบลดเสียงก้องของผู้พูด ที่เรียกว่า OVP (Own Voice Processing) ช่วยให้ผู้ใช้งานได้ยินเสียงพูดของตัวเองอย่างเป็นธรรมชาติไม่รู้สึกก้อง
- ระบบปล่อยเสียงกลบเสียงรบกวนในหู (Tinnitus Therapy) เป็นโปรแกรมเสริม สามารถเปิดใช้งานเพื่อช่วยบรรเทาอาการเสียงรบกวนในหู สำหรับผู้ที่มีปัญหาเสียงรบกวนในหู
- การตัดลดเสียงลมอัตโนมัติ ในสถานการณ์ที่มีลมแรง เครื่องจะทำการตัดเสียงลมให้อัตโนมัติช่วยให้การรับฟังเสียงชัดเจนขึ้น
- บันทึกสถานการณ์จริงและปรับระดับเสียงอัตโนมัติ เครื่องตรวจจับเสียงในสถานการณ์จริงของผู้ใช้งานและจะวิเคราะห์เลือกลักษณะการปรับแต่งเสียงที่เหมาะสมกับเสียงนั้นๆให้กับผู้ใช้งาน ด้วยระบบอัจฉริยะนี้จะช่วยให้ผู้ใช้งานได้รับเสียงที่ดังพอดีและฟังสบายได้อย่างอัตโนมัติโดยที่ไม่ต้องกดเปลี่ยนโปรแกรมการใช้งาน
จากที่กล่าวมาข้างต้น จะเห็นได้ว่าเครื่องช่วยฟังในปัจจุบันนี้มีเทคโนโลยีที่ได้รับการพัฒนาดีขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ระบบการขยายเสียงมีความละเอียดและอำนวยความสะดวกกับผู้ใช้มากกว่าเดิม ทางผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นตัวช่วยให้ท่านสามารถพิจารณาเลือกซื้อเครื่องช่วยฟังได้อย่างเหมาะสมและตรงกับความต้องการของท่านได้ไม่มากก็น้อย
No responses yet