การคัดกรองการได้ยิน ในทารก : การตรวจการได้ยินในเด็กทารก เป็นสิ่งสำคัญอย่างมากที่พ่อ แม่ ไม่ควรละเลย เนื่องจากเป็นการป้องกันปัญหาการได้ยินต่าง ๆ ไม่ให้ไปขัดขวางพัฒนาการของเด็กทั้งด้านการเรียนรู้ และการพูดในอนาคต
การคัดกรองการได้ยิน ในทารก แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ ทารกปกติ และ ทารกกลุ่มเสี่ยง
ทารกปกติ
ตรวจคัดกรองการได้ยินด้วย TEOAE ครั้งแรก เมื่อเด็กอายุมากกว่า 48 ชั่วโมง ถ้าผลการตรวจไม่ผ่าน ตรวจ TEOAE ซ้ำอีกครั้ง ภายหลังการตรวจครั้งแรกประมาณ 1 สัปดาห์ ถ้าผลยังไม่ผ่าน เด็กต้องได้รับการตรวจหูโดยโสตศอนาสิกแพทย์ และการตรววจ ABR เพื่อการวินิจฉัยเป็นขั้นตอนต่อไป
ทารกกลุ่มเสี่ยง
ตรวจคัดกรองการได้ยินด้วย A-ABR ครั้งแรกเมื่อเด็กพร้อม ถ้าผลตรวจไม่ผ่าน ตรวจ A-ABR ซ้ำ อีกครั้งภายหลังการตรวจครั้งแรกประมาณ 1 เดือน ถ้าผลตรวจไม่ผ่านเด็กต้องได้รับการตรวจหูโดยโสตศอนาสิกแพทย์ และตรวจ ABR เพื่อการวินิจฉัย
ผลการตรวจ OAE ไม่ผ่านอาจมีสาเหตุจากที่มีขี้หูอุดตันอยู่ หรือมีรูหูแคบ นิ่มมาก มีพยาธิสภาพในหูชั้นกลาง หรือ ปลายประสาทรับเสียงเสีย ดังนั้น การที่ตรวจ OAE ไม่ผ่านนั้นไม่ได้แสดงว่าเด็กจะหูตึง จะต้องมีการตรวจซ้ำเพื่อการวินิจฉัยที่ชัดเจน ถ้าพบความผิดปกติจะได้รับการรักษาตั้งแต่อายุยังน้อย
เด็กทารกที่มีความเสี่ยงต่อการสูญเสียการได้ยิน มีดังนี้
- มีญาติหูหนวก หูตึง หรือเป็นใบ้ ตั้งแต่เด็ก
- มารดาติดเชื้อระหว่างตั้งครรภ์ เช่น หัดเยอรมัน Cytomegalovirus เป็นต้น
- คลอดก่อนกำหนด น้ำหนักตัวแรกเกิดน้อยกว่าเกินปกติ 1500 กรัม
- มีภาวะขาดออกซิเจนแรกคลอดอย่างรุนแรง
- มีความผิดปกติของใบหน้าตั้งแต่กำเนิด
- ภาวะการติดเชื้อ เช่น เยื่อหุ้มสมองอักเสบ
- ได้รับยาที่เป็นอันตรายต่อประสาทหู
หากท่านใดสนใจอยากปรึกษาเกี่ยวกับ เครื่องช่วยฟัง ประสาทหูเทียม สามารถติดต่อมาได้ที่ hearLIFE เรามีผลิตภัณฑ์ที่พร้อมรองรับทุกปัญหาการได้ยิน และทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแก้ไขปัญหาการได้ยินที่พร้อมให้คำปรึกษา และบริการ
สามารถอ่านบทความเกี่ยวกับโรคหูเพิ่มเติมได้ที่ บทความ
image by Freepik
Line Official : @hearlifeth
Facebook: https://www.m.me/hearlifethai
หรือโทร 02-693-9411
No responses yet