ตบบ้องหู

ตบบ้องหู

การถูก ตบบ้องหู หรือการถูกแรงกระแทกที่บ้องหูนั้น จะส่งผลต่อระบบประสาทของการได้ยินอย่างรุนแรง เนื่องจากแรงกระแทกที่เกิดขึ้นก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของแรงดันอากาศอย่างเฉียบพลันในช่องหู  ส่งผลให้เกิดอาการต่าง ๆ เช่น หูอื้อ หรือการได้ยินลดลง และอาจร้ายแรงถึงขึ้นแก้วหูทะลุได้  

อาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นเมื่อถูก ตบบ้องหู

1.แก้วหูแตก หรือฉีกขาด

เยื่อแก้วหูของเรามีลักษณะเป็นเยื่อบาง ๆ คอยทำหน้าที่รับแรงสั่นสะเทือนของเสียง เมื่อเยื่อแก้วหูได้รับแรงกระแทกอย่างรุนแรง อาจทำให้แก้วหูสามารถฉีกขาดได้ทันที และส่งผลให้เกิดอาการปวดหูอย่างรุนแรง สูญเสียการได้ยินชั่วคราวหรือถาวร 

2.การสูญเสียการได้ยิน

เมื่อแก้วหูได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรง อาจส่งผลต่อโครงสร้างของหูชั้นใน และส่งผลต่อเส้นประสาทการรับเสียงได้ในบางกรณี เช่น

  • เส้นประสาทการได้ยิน (Auditory Nerve)เมื่อแก้วหูทะลุ อาจส่งผลให้เสียงที่ได้ยินผิดเพี้ยนไป ซึ่งกระทบต่อการทำงานของเส้นประสาทการได้ยิน เนื่องจากได้รับข้อมูลที่ผิดเพี้ยนหรือเสียงที่ไม่ชัดเจน ทำให้มีปัญหาการได้ยินหรือเสียงอื้อในหู
  • เส้นประสาทใบหน้า (Facial Nerve)เป็นประสาทที่มีตำแหน่งอยู่ใกล้กับหูชั้นกลาง ซึ่งในกรณีที่มีการบาดเจ็บที่รุนแรง หรือมีการติดเชื้อ อาจส่งผลกระทบไปถึงเส้นประสาทใบหน้า จะทำให้เกิดอาการชา กล้ามเนื้อใบหน้าอ่อนแรง หรือใบหน้ากระตุกได้

3.ภาวะน้ำในหูชั้นในรั่ว 

ที่หูชั้นในมีของเหลวที่ชื่อว่า perilymph เมื่อมีแรงกระแทกที่รุนแรงเกิดขึ้น อาจส่งผลให้เกิดรอยรั่วในหูชั้นใน จนของเหลวที่หูชั้นในไหลออกมาที่หูชั้นกลาง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อระบบการทรงตัว และการได้ยิน โดยลักษณะอาการมีดังนี้

  • เวียนศีรษะ มีอาการบ้านหมุน หรือรู้สึกเสียการทรงตัว
  • มีเสียงอื้อในหู 
  • การได้ยินลดลง หรืออาจสูญเสียการได้ยินแบบฉับพลัน 
  • มีความรู้สึกแน่น ๆ ในหู หรือหูอื้อร่วมด้วย

4.การอักเสบและติดเชื้อ

เมื่อแก้วหูแตกหรือฉีกขาด มีโอกาสที่จะติดเชื้อและเกิดการอักเสบขึ้นที่หูชั้นกลางหรือหูชั้นใน เนื่องจากเชื้อโรคสามารถเข้าสู่หูได้ง่ายขึ้น อาการติดเชื้อและการอักเสบที่พบได้ มีดังนี้

  • หูชั้นกลางอักเสบ เมื่อแก้วหูทะลุ ทำให้เชื้อแบคทีเรียหรือไวรัสสามารถเข้าไปในหูชั้นกลางได้ง่ายขึ้น ทำให้เกิดการอักเสบ จนมีอาการต่าง ๆ เช่น ปวดหู มีไข้ และในบางกรณีอาจมีของเหลวไหลออกมา
  • หูชั้นในอักเสบ ส่งผลต่อระบบการทรงตัวและการได้ยิน ทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะ บ้านหมุน การทรงตัวไม่ดี และการได้ยินลดลง
  • ภาวะแทรกซ้อนจากการติดเชื้อ  เมื่อมีการติดเชื้อ แต่ไม่ได้เข้ารับการรักษา อาจทำให้เชื้อในหูสามารถลุกลามไปยังอวัยวะข้างเคียงได้ และการติดเชื้อที่รุนแรง ก็อาจส่งผลไปถึงสมอง ทำให้เกิดเยื่อหุ้มสมองอักเสบ หรือเป็นฝีในสมองได้

วิธีการรักษาและการป้องกันจากการถูก ตบบ้องหู

  • เมื่อคนใกล้ชิดหรือคุณได้รับบาดเจ็บที่หู ควรรีบปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง เพื่อประเมินอาการและรักษาอย่างถูกต้อง 
  • ส่วนวิธีการรักษาจะแบ่งออกตามความรุนแรงของอาการ ตั้งแต่การรักษาเบื้องต้นด้วยยา ไปจนถึง การผ่าตัดแก้วหูหรือการฝังหูชั้นกลางเทียมเพื่อฟื้นฟูการได้ยิน 

แต่การป้องกันที่ดีที่สุดคือการหลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรงที่อาจส่งผลกระทบต่อหู 

สามารถอ่านบทความอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ บทความ

image by Freepik

Line Official : @hearlifeth

Facebook: https://www.m.me/hearlifethai

หรือโทร 02-693-9411

 

Tags

No responses yet

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *