เครื่องช่วยฟัง

เครื่องช่วยฟัง

การเลือก เครื่องช่วยฟัง นั้นไม่ใช่แค่คิดว่าใส่แบบไหนก็ได้ผลเหมือนกัน ในความจริงแล้วการเลือกเครื่องช่วยฟังนั้นควรเลือกให้เหมาะสมกับระดับการสูญเสียการได้ยินที่กำลังเป็นอยู่ หรือหากคุณกำลังหารายละเอียดในการเลือกเครื่องช่วยฟังอยู่ วันนี้เรามีทริคในการเลือกซื้อเครื่องช่วยฟังมาเป็นแนวทางมาฝากทุกคนกันค่ะ

ก่อนจะซื้อเครื่องช่วยฟังเราควรจะรู้ถึงสิ่งสำคัญที่เป็นตัวแปรในการเลือกเครื่องช่วยฟัง

  1. ระดับของการสูญเสียการได้ยิน

ก่อนที่เราจะซื้อเครื่องช่วยฟังเราจำเป็นต้องรู้ว่าระดับการสูญเสียการได้ยินอยู่ในระดับไหนหรือได้ยินเสียงอยู่ในระดับกี่เดซิเบล

  • ระดับการได้ยินน้อยกว่า 25 เดซิเบล การได้ยินเป็นปกติ
  • ระดับการได้ยิน 26-40 เดซิเบล เริ่มมีภาวะหูตึงเล็กน้อย
  • ระดับการได้ยิน 41-55 เดซิเบล มีภาวะหูตึงปานกลาง
  • ระดับการได้ยิน 56-70 เดซิเบล มีภาวะหูตึงมาก
  • ระดับการได้ยิน 71-90 เดซิเบล มีภาวะหูตึงอย่างรุนแรง
  • ระดับการได้ยิน 90 เดซิเบลขึ้นไป มีภาวะหูหนวก
  1. กำลังขยายของเครื่องช่วยฟังหากเรารู้ว่าระดับการสูญเสียการได้ยินอยู่ในระดับไหน เราจะสามารถเลือกเครื่องช่วยฟังให้เหมาะสมได้
  • เครื่องช่วยฟังแบบทัดหลังหู เป็นเครื่องช่วยฟังที่เหมาะกับผู้ที่สูญเสียการได้ยินในระดับเล็กน้อยไปจนถึงระดับรุนแรง หรือสูญเสียการได้ยินตั้งแต่ 40-70 เดซิเบล
  • เครื่องช่วยฟังแบบในช่องหู เป็นเครื่องช่วยฟังเหมาะกับผู้ที่สูญเสียการได้ยินในระดับเล็กน้อยไปจนถึงระดับรุนแรง หรือสูญเสียการได้ยินตั้งแต่ 40-70 เดซิเบล
  • เครื่องนำเสียงผ่านกระดูก เป็นเครื่องช่วยฟังที่ช่วยแก้ไขปัญหาการสูญเสียการได้ยินชนิดการนำเสียงบกพร่อง จะเหมาะกับผู้ที่สูญเสียการได้ยินระดับปานกลางไปจนถึงระดับรุนแรง
  1. การรับประกันและบริการหลังการขาย

นอกจากตัวเครื่องหรือการใช้งานแล้ว เรื่องของการบริการหลังการขายก็เป็นอีกสิ่งที่เราต้องให้ความสำคัญ ทั้งเรื่องการรับประกันและการดูแลหลังการซื้อไปแล้วว่าเป็นอย่างไร และไม่ควรลืมที่จะศึกษาหาข้อมูลก่อนการซื้อ และไม่ควรลืมที่จะตั้งคำถามกับผู้ให้บริการอย่างเช่น

  • ระยะเวลาการรับประกัน รวมไปถึงเงื่อนไขในการรับประกัน
  • รายละเอียดในบริการหลังการขาย
  • ศูนย์ให้บริการหากเกิดปัญหา ระยะเวลาในการซ่อมแซม หรือค่าใช้จ่ายที่จำเป็น

 

  1. ค่าใช้จ่ายที่จำเป็น

การใส่เครื่องช่วยฟังไม่ได้มีเพียงค่าเครื่องเพียงเท่านั้น ยังมีค่าแบตเตอรี่และค่าเครื่องดูดความชื้นที่จะเป็นค่าใช้จ่ายประจำ เนื่องจากแบตเตอรี่จะต้องเป็นแบตเตอรี่ของเครื่องช่วยฟังโดยเฉพาะ อีกทั้งการใช้งานโดยปกติแล้ว เราจะต้องใส่เครื่องช่วยฟังอยู่ตลอด มีโอกาสที่จะเจอความชื้นจากรอบข้างหรือจากเหงื่อของเราเอง และอาจทำให้เครื่องช่วยฟังมีโอกาสเสียได้ เครื่องดูดความชื้นจึงเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญอีกชิ้นหนึ่ง

  1. ความคาดหวังของการใส่ เครื่องช่วยฟัง

สำหรับผู้ที่สูญเสียการได้ยินมักจะคาดหวังว่าหากใส่เครื่องช่วยฟังแล้วจะสามารถได้ยินเหมือนเมื่อก่อนที่ยังไม่สูญเสียการได้ยิน แต่จริง ๆ แล้วการใส่เครื่องช่วยฟังจะช่วยให้การได้ยินดีขึ้นแต่ไม่เท่ากับการได้ยินที่เป็นปกติ อีกทั้งการใส่เครื่องช่วยฟังจำเป็นจะต้องฝึกฝนกับเครื่องช่วยฟังก่อน โดยการฝึกฝนจะมีการฝึกพูด ฝึกฟังเพื่อสร้างความคุ้นเคยให้กับตนเองได้

        อ่านจบถึงตรงนี้แล้ว หวังว่าจะช่วยให้หลายคนสามารถหา เครื่องช่วยฟัง ที่เหมาะกับตัวเองได้นะคะ และหากใครที่ต้องการข้อมูลของเครื่องช่วยฟังเพิ่มเติม สามารถติดต่อมาที่ hearLIFE เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม รวมไปถึงการให้คำปรึกษาสำหรับคนที่ต้องการซื้อเครื่องช่วยฟังได้ค่ะ เพราะ hearLIFE มีสุขภาพหูที่ดีและมีความสุขในทุกวันค่ะ

ติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่

line official : @hearlifeth

Facebook: https://www.m.me/hearlifethai

หรือโทร 02-693-9411

Tags

No responses yet

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *